นอกเหนือจากกราฟเทคนิคแล้ว ยังมีสิ่งที่สามารถใช้กำหนดกลยุทธ์การลงทุนได้นั่นคือดัชนีชี้วัดอารมณ์และพฤติกรรมของนักลงทุนในตลาดคริปโตซึ่งจะมีอยู่ด้วยกัน 4 เครื่องมือหลักก็คือ
Whale Alert
Whale Alert คือ การติดตามความเคลื่อนไหวของนักลงทุนรายใหญ่ในคริปโตหรือที่เรียกว่าปลาวาฬผ่านทางข้อมูล On Chain โดยเป็นดัชนีที่ถูกคิดขึ้นมาในปี 2018 สามารถติดตามได้ผ่านทางโซเชียลมีเดียอย่าง Twitter และ Telegram ซึ่งจะแบ่งออกได้ 6 รูปแบบคือ
1.Unknow Wallet ไปยัง Exchange เป็นการโอนเหรียญจาก Wallet ส่วนตัวไปยัง Exchange ซึ่งจะมีความหมายว่าน่าจะนำไปขายเพื่อทำกำไร หากออกมาแบบนี้จะเป็นผลลบต่อราคา
2.Unknow Wallet ไปยัง Unknow Wallet เป็นการโอนเหรียญกันเองระหว่างนักลงทุนรายใหญ่ อาจจะไม่มีผลต่อตลาดมากนัก
3.Exchange ไปยัง Unknow Wallet เป็นการโอนเหรียญจาก Hot Wallet ใน Exchange ไปยัง Wallet ส่วนตัว บ่งบอกว่าเป็นการเข้าเก็บระยะยาวมากกว่าขายออก หากออกมาแบบนี้จะเป็นผลดีต่อตลาด

4.Exchange ไปยัง Exchange เป็นการโอนเหรียญไปมาระหว่าง Exchange ไม่มีนัยยะสำคัญเท่าไรต่อตลาด
5.Minted มีการสร้างเหรียญใหม่ขึ้นมาในระบบ
6.Burn มีการเผาเหรียญทิ้งออกไปในระบบ
ทั้งนี้หากมีสัญลักษณ์หลอดไฟสีแดงมากเท่าไร มูลค่าของการทำธุรกรรมจะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น โดยแต่ละหลอดไฟจะมีมูลค่าเท่ากับ 10 ล้านดอลลาร์
Whale Alert คือ อะไรติดตามได้ที่นี้
Bitcoin Dominance
Bitcoin Dominance คือ ดัชนีชี้วัดที่เกิดจากการคำนวนมูลค่าตลาดของ Bitcoin เทียบกับมูลค่าตลาดรวมของคริปโตทั้งหมดเพื่อเป็นการบ่งบอกว่ามุมมองของคนในตลาดเวลานั้นถือเหรียญอะไรมากกว่ากัน โดยสามารถเรียกดูได้ผ่านทาง Tradingview พิมพ์ว่า BTC.D

ถ้าหาก Bitcoin Dominance มีสัดส่วนมากกว่า 50 แสดงว่าเวลานั้นนักลงทุนเข้าถือ Bitcoin มากกว่า Altcoin ซึ่งจะทำให้ราคา Altcoin ค่อนข้างซบเซา แต่ถ้าตัวเลขเริ่มลดลงแสดงว่านักลงทุนเริ่มมีการขาย Bitcoin ไปลงทุนใน Altcoin แทน
เนื่องจากพฤติกรรมของตลาดคริปโตในภาวะขาขึ้นช่วงต้นนักเทรดมักจะลงทุนใน Bitcoin ก่อนจนราคาเริ่มไม่ไปต่อถึงจะเริ่มมีการขาย Bitcoin ไปลงทุนใน Altcoin แทน
Altcoin Season
Altcoin Season คือ ช่วงเวลาที่เปลี่ยนผ่านจาก Bitcoin Dominance เริ่มลดลง เม็ดเงินจะไหลไปยัง Altcoin แทนและจะเริ่มมีการเทขาย Bitcoin บางส่วนหรือเริ่มหยุดซื้อ ซึ่งทั่วไปแล้วเหรียญ Altcoin จะมีการเปลี่ยนแปลงของราคาที่มากกว่า Bitcoin ทำให้ตลาดโดยรวมและนักเทรดมีความคึกคัก บางครั้งจะมีชื่อเรียกว่า Altcoin Party
ทั่วไปแล้ว Altcoin ที่มีมาร์เกตแคปใหญ่อย่างเช่น Ethereum หรือเหรียญที่อยู่ในกระแสช่วงเวลานั้นมักจะเป็นกลุ่มนำตลาดที่ปรับตัวขึ้นก่อน จากนั้นก็จะเรียงไปยังเหรียญที่มีมาร์เกตแคปขนาดกลางไปจนถึงขนาดเล็ก

การจะบ่งบอกว่าถึง Altcoin Season แล้วอาจจะดูได้ที่ดัชนี Bitcoin Dominance ที่หากปรับตัวเพิ่มขึ้นจนถึงแนวต้านสำคัญก็จะถึงจุดที่เม็ดเงินไหลออกจาก Bitcoin ไปยัง Altcoin
อย่างไรก็ตามหากการเก็งกำไรใน Altcoin เริ่มมีความคึกคักแต่ Bitcoin Dominance เริ่มที่จะหยุดลง จะเป็นการส่งสัญญาณว่าเม็ดเงินอาจจะเริ่มไหลกลับไปยัง Bitcoin อีกครั้งเป็นวัฐจักรแบบนี้วนกลับไปกลับมา
Fear And Greed Index
ดัชนี Crypto Fear and Greed Index ถูกนำมาใช้วิเคราะห์พฤติกรรมของนักลงทุนในตลาดโดยใช้ข้อมูลต่างๆที่เกิดขึ้น อย่างเช่นความผันผวนและ Maximum Drawdown ของราคา Bitcoin เปรียบเทียบกับความผันผวนเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วัน และ 90 วัน หากความผันผวนมากขึ้นแสดงว่าตลาดมีความคึกคักมากขึ้น
รวมถึงปริมาณการซื้อขายในภาพรวมของตลาด อย่างเช่นหากมีวอลลุ่มซื้อเข้ามาอย่างมากในวันที่ตลาดเป็นบวก บ่งบอกถึงนักลงทุนเริ่มมีความโลภมากขึ้น และยังนำเอาข้อมูลในโลกออนไลน์อย่างเช่นจำนวน Hastag ใน Twitter และ Google Trend มาวิเคราะห์

ดัชนี Crypto Fear and Greed Index จะมีตั้งแต่ระดับ 0 ถึง 100 หากตัวเลขลงมาต่ำใกล้เคียง 0 จะหมายถึงตลาดอยู่ในภาวะกลัวสุดขีด (Extremely Fear) แต่ถ้าตัวเลขยิ่งสูงจะบ่งบอกถึงตลาดอยู่ในภาวะโลภสุดขีด (Extremely Greed) ซึ่งหากนักลงทุนต้องการจะลงทุนสวนความคิดของนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดก็สามารถใช้ดัชนี้นี้ในการตัดสินใจได้
อย่างไรก็ตามทั้ง 4 ดัชนีนี้จะต้องใช้วิเคราะห์ตลาดควบคู่ไปกับเครื่องมืออื่นๆอย่างเช่นกราฟเทคนิค เศรษฐกิจมหภาคและ On Chain Data ด้วยถึงจะได้ข้อมูลในการตัดสินใจที่สมบูรณ์
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : การส่งคำสั่งซื้อขาย FUTURES แบบ GRID TRADING