ต้องบอกว่าเหนือความคาดหมายพอสมควรกับการที่ตลาดคริปโตโดนเทขายอย่างหนักเมื่อคืนที่ผ่านมาจากที่คาดว่าตลาดต้องลงมาอยู่แล้วแต่นี่คือการลงแบบลิฟท์ขาดเลยทีเดียว
ส่วนตัวชอบการลงแบบนี้คือเจ็บแล้วจบทีเดียวเพราะถ้าตลาดค่อยๆซึมลงจะเทรดค่อนข้างยากเพราะไม่มีเทรนด์ ยิ่งคนที่ใช้ Exchange ไทยที่ไม่มี Futures ยิ่งหาช่องทำกำไรยากขึ้นไปอีก
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : BITCOIN ในกำมือของ ELON MUSK เราจะเอาตัวรอดได้อย่างไร??
มาดูกันที่ Bitcoin ลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 30,000 ดอลลาร์ แล้วดึงกลับอย่างรวดเร็ว เชื่อว่าระดับดังกล่าวน่าจะเป็นจุดต่ำสุดแล้ว ด้วยเหตุผลทั้งเชิงกราฟเทคนิคที่ลงมาถึงแนวรับสำคัญตามแนว Fibonacci และหากมองว่าการปรับฐานจากจุดสูงสุด 65,000 ดอลลาร์ ลงมาที่ระดับ 30,000 ดอลลาร์ หรือลงมาประมาณ 53% ถือว่า “สมเหตุสมผล” กับการ Correction ครั้งใหญ่แล้ว

ส่วนตัวไม่มองว่าราคา Bitcoin จะดิ่งถึงระดับ 80% เหมือนในปี 2018 (ถ้าลงมาระดับดังกล่าวคือ Bitcoin จะไปแตะ 12,700 ดอลลาร์ !!) เหตุผลเพราะ
หนึ่ง..รอบนี้เรามีนักลงทุนสถาบันเข้ามาถือซึ่งกลุ่มนี้จะลงทุนระยะยาวและระดับราคาตั้งแต่สองหมื่นปลายๆจนถึงสามหมื่นกลางๆคือระดับที่นักลงทุนสถาบันเป็นฝ่ายเข้าซื้อ โดยเฉพาะกลุ่มแรกๆอย่าง Microstrategy และเชื่อว่าจะมีนักลงทุนสถาบันหน้าใหม่เข้ามาซื้อในระดับราคาแถวๆ 30,000 ดอลลาร์ อีกด้วย (ต่อ)
สอง..จำนวนนักลงทุนหน้าใหม่ในคริปโตเรามีมากขึ้นซึ่งบางกลุ่มอาจจะพลาดตกรถไปในรอบก่อนทำให้เกิดแรงซื้อใหม่เข้ามาได้
คราวนี้สาเหตุที่มองว่าระดับ 30,000 ดอลลาร์ น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของการพักฐานรอบนี้แล้ว หรือถ้าจะมีการเทลงมาอีกก็ลงมาอีกไม่เยอะแล้วก็เพราะการที่ Bitcoin ไม่ลงมาต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์ ทำให้ภาพของ Elliot Wave จะเป็นการจบพักฐานขา 4 เพื่อขึ้นต่อในขา 5 ซึ่งจะสร้างจุดสูงสุดใหม่เหนือ 65,000 ดอลลาร์
** คอร์สออนไลน์ “มือใหม่เริ่มลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล” นอกจากเรียนทฤษฎีทางออนไลน์แล้วยังได้เรียนสดทาง Zoom กับผู้สอนทุกสัปดาห์อีกด้วย รายละเอียดคลิ๊กที่นี้
แต่!! ไม่ใช่ว่า Bitcoin จะลงมาต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์ ไม่ได้นะบอกก่อนเพียงแต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นน้อยมากและถ้าเกิดตำราทฤษฎี Elliot Wave ก็จะใช้ไม่ได้และหมายความว่าพื้นฐานของ Bitcoin จะเปลี่ยนแปลงไปในเชิงลบชนิดที่อาจจะกู่ไม่กลับอีกแล้ว

สำหรับแผนระยะสั้นล่าสุดราคา Bitcoin เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแนวรับ 36,776 และแนวต้าน 42,800 ดอลลาร์ ถือเป็นจุดซื้อแรกได้ โดยมี Downside จากแนวรับ 36,776 ดอลลาร์ ได้อีก 18% จึงไม่ควรจะเร่งเข้าซื้อทั้งหมดในครั้งเดียวแต่ให้เริ่มทะยอยสัก 2-3 ไม้ จะเป็นกลยุทธ์ที่ปลอดภัยกว่า
ทั้งนี้มีโอกาสที่ตลาดจะเทได้อีกรอบซึ่งการเทหนักๆอีกรอบและไม่หลุดระดับ 30,000 ดอลลาร์ ก็จะเป็นการคอนเฟิร์มว่าสิ้นสุดขาลงแล้ว
ตลาด Altcoin จะเป็นอย่างไรต่อไป??
ก่อนหน้าที่ Bitcoin จะถูกเทขายอย่างหนัก ดัชนี Bitcoin Dominance ได้ลงมาทำจุดต่ำสุดในรอบกว่าสามปีครึ่งโดยลงมาอยู่ในระดับ 34.76 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับเดือนมกราคมปี 2018 ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 40 บ่งบอกว่า Altcoin มีบทบาทต่อตลาดคริปโตมากขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : รีวิว BINANCE เวบเทรดคริปโตอันดับหนึ่งของโลก
ทั้งนี้บริบทของ Altcoin ในปี 2021 แตกต่างจากปี 2017-18 อย่างมาก เหรียญทางเลือกในยุคนั้นยังมีพื้นฐานไม่ดีเท่ากับในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะเหรียญที่เกิดจากการทำ ICO กว่า 90% ได้หายไปจากตลาด เหลือเพียงแค่บางเหรียญที่เข้มแข็งอย่าง BNB EOS ที่ยังคงยืนหยัดมาได้ถึงตอนนี้ เราจึงไม่น่าจะได้เห็นราคา Altcoin ลดลง 80-90%

เมื่อคืนที่ผ่านมาเหรียญ Altcoinถูกเทขายในค่าเฉลี่ยที่สูงกว่า Bitcoin แต่ทั้งหมดก็ทำจุดต่ำสุดให้เห็นก่อนที่จะมีการดีดตัวขึ้น ระยะสั้นคาดว่าเม็ดเงินจะไหลกลับไปยัง Bitcoin ก่อน โดยหากราคา Bitcoin ฟื้นตัว Altcoin น่าจะฟื้นตัวตามมา
Altcoin ที่น่าจะเป็นทางเลือกแรกในการลงทุนโดยสามารถมองภาพระยะกลางถึงยาวได้เลยควรจะเป็นเหรียญที่มีมาร์เกตแคปอันดับต้นๆ โดยเฉพาะเหรียญที่มีกองทรัสต์อย่าง Grayscale เข้าไปลงทุนอย่าง Ethereum เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่ดีกว่าเหรียญทางเลือกที่เป็นกระแสก่อนหน้านี้อย่าง NFT หรือ DeFi
อย่างไรก็ตามเมื่อเหรียญมาร์เกตแคปใหญ่ฟื้นตัวก็จะดึงเหรียญขนาดเล็กฟื้นตัวตามได้เช่นกันแต่อาจจะช้ากว่า
ระยะสั้นจับตาจุดต่ำสุดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ถ้าไม่ทำโลว์ใหม่ก็เป็นสัญญาณในการเข้าซื้อได้โดยทะยอยเข้าสองถึงสามไม้เพราะยังมีความเสี่ยง Downside Risk อยู่ Bitcoin Dominance
ทั้งนี้มีโอกาสที่ตลาดจะเทได้อีกรอบซึ่งการเทหนักๆอีกรอบและไม่หลุดระดับ 30,000 ดอลลาร์ ก็จะเป็นการคอนเฟิร์มว่าสิ้นสุดขาลงแล้ว
บทความที่เกี่ยวข้อง : รีวิว BYBIT เวบเทรดคริปโตแบบ FUTURES ที่กำลังมาแรง