รีวิว Freedom Mall แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแห่งแรกที่เปิดรับการชำระสินค้าด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมี FDM Token ในการขับเคลื่อนระบบนิเวศน์ไม่ว่าจะเป็นทั้งฝั่งร้านค้าและฝั่งลูกค้าและทำงานร่วมกับ Bitazza อย่างใกล้ชิด โดยอนาคตจะมีการขยายเข้าสู่โลกของ NFT และ Metaverse
โปรเจกต์แรกจาก Bitazza Launchpad
Freedom Mall คือ โปรเจกต์แรกภายใต้โปรแกรม Bitazza Launchpad ซึ่งจะช่วยสนับสนุนโปรเจกต์ทางด้านสินทรัพย์ดิจิทัลหน้าใหม่ โดยจะได้รับทั้งคำแนะนำจากทีมงานที่มีประสบการณ์ของ Bitazza รวมไปถึงการได้สิทธิเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน์
โดยผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้งาน Freedom Mall ได้ทางแอปพลิเคชั่น Bitazza Global รวมถึงผ่านทางเวบไซต์ปกติ ซึ่ง UX/UI ที่ออกแบบมาช่วยให้การใช้งานทำได้ง่าย ทั้งนี้สินค้าที่จำหน่ายในแพลตฟอร์มจะเป็นแบบ B2C เน้นสินค้าประเภทคงทนอย่างเช่นเสื้อผ้า ของใช้อีเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : วิเคราะห์อนาคตของเหรียญ BTZ และ USDF ผ่าน WHITEPAPER 2.0
อีคอมเมิร์ซรายแรกที่ใช้คริปโตในการชำระเงิน
ความพิเศษของ Freedom Mall คือ การเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายแรกที่เปิดรับการชำระเงินด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล โดยในช่วงแรกจะเปิดรับสองสกุลคือ USDF และ BTZ ซึ่งเป็นโทเคนที่อยู่ในระบบนิเวศน์ของ Bitazza ก่อนที่จะขยายไปยังสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆที่ซื้อขายใน Bitaza Global กว่า 60 สกุล

โดย Freedom Mall ได้มีการจับมือเป็นพันธมิตรกับ N- Squared ซึ่งเป็นบริษัททางด้านขนส่งโลจิสติกส์ ซึ่งมีประสบการณ์ 7 ปีในการให้บริการกับลูกค้า 521 ราย ใน 6 ประเทศทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะเข้ามาช่วยในการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้า
แบรนด์สินค้ารวมถึงผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอีรายใดที่ต้องการจะเปิดรับการชำระค่าสินค้าด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ว่าจะเป็นสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำอย่าง Bitcoin และ Ethereum ตลอดจน Stablecoins อย่าง USDC และ USDF สามารถสมัครเข้ามาเปิดร้านขายของออนไลน์ภายในแพลตฟอร์มได้
ระบบนิเวศน์ของ FDM Token
Freedom Mall ยังเป็นเจ้าของ The Freedom Mall Token หรือ FDM ซึ่งอยู่ในเชน Ethereum รหัส ERC-20 ทำหน้าที่เป็น Utility token ภายในแพลตฟอร์ม โดยจะอยู่ใน Mainnet และ Proof-of-Stake Beacon Chain ที่ได้เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ โดยใช้ระบบการทำงานแบบ Delegated Proof-of-Stake (DPoS) ซึ่งจะให้สิทธิประโยชน์ต่างๆกับผู้ถือโทเคนทั้งฝั่งร้านค้าและลูกค้า
ตัวอย่างสิทธิประโยชน์ของฝั่งลูกค้าเช่นคูปองส่วนลดสินค้า ส่วนลดค่าธรรมเนียม ขนส่งฟรี สิทธิในการโหวตประเด็นต่างๆรวมถึงการรับส่วนแบ่งรายได้ ส่วนฝั่งร้านค้าจะได้รับส่วนลดค่า Vender Fees การโปรโมตร้านค้าผ่านแบนเนอร์ พื้นที่ร้านค้าในเมตาเวิร์สตลอดจนสิทธิในการโหวตและส่วนแบ่งรายได้

โดยวิธีการได้รับโทเคน FDM จะมาจากการใช้งานในแพลตฟอร์มและทำตามเงื่อนไขต่างๆตามแคมเปญในแต่ละล่วงเวลา ส่วนทางฝั่งร้านค้าจะได้รับโทเคนจากการเข้าร่วมเปิดร้านค้าภายในแพลตฟอร์ม
ระบบ Staking และ Buy Back And Burn
Freedom Mall จะเปิดให้สามารถ Staking โทเคน FDM ภายในไตรมาสสองของปี 2023 โดยจะมีระยะเวลาในการวาง Stake ตั้งแต่ 180-360 วัน ซึ่งจะได้รับในรูปแบบของ FDM โทเคน และในอนาคตอาจจะจ่ายผลตอบแทนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง BTC หรือ ETH

นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะทำการซื้อคืนโทเคนในตลาดและเผาทิ้ง (Buy Back And Burn) เพื่อให้โทเคน FDM มีมูลค่าเพิ่มขึ้นในระยะยาว
แผนงานในอนาคต
นอกจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแล้ว Freedom Mall ยังมีแผนขยายไปเป็น NFT Marketplace ในอนาคตโดยจะชูจุดเด่นในเรื่องของการไม่เก็บค่า Gas ในการทำธุรกรรมซื้อขายเพื่อดึงดูดทั้งผู้สร้าง NFT และผู้ซื้อให้เข้ามาใช้บริการในแพลตฟอร์ม
นอกจากนี้ Freedom Mall ยังมีแผนที่จะสร้างทรัพย์สินทางปัญญาของตัวเองไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาแบรนด์ของตัวเองหรือผ่านโครงการ Launchpad ที่เกี่ยวกับ NFT และ Metaverse ซึ่งจะมีการจัดสรร FDM Token ไว้สัดส่วน 5% เพื่อโปรเจกต์นี้

โดยโทเคน FDM สัดส่วน 50% หรือ 2,500 ล้านโทเคนจากทั้งหมด 5,000 ล้านโทเคนจะถูกนำไปใช้ในการขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างไทย เวียตนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สัดส่วนที่เหลือจะเป็นของนักลงทุน ผู้บริหารและพนักงาน
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : รีวิว FREEDOM CARD รับ CASH BACK เป็นเหรียญ BTZ ทุกการใช้จ่าย
เรียกได้ว่า Freedom Mall คือ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่อยู่ในรอยต่อระหว่างยุค Web2.0 ที่จะไปยังยุคของ Web3.0 โดยเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน์ของ Bitazza ซึ่งมีแกนนำคือระบบการชำระเงินผ่านทาง Freedom Card และ Freedom Wallet หากผสมผสานกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซน่าจะเป็นสูตรการผสมที่ลงตัว
หากต้องการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม Freedom Mall และโทเคน FDM เพิ่มเติมอ่านได้ที่ Whitepaper ตามลิงค์นี้เลย https://bit.ly/FDMwhitepaper
ล่าสุด Bitazza ได้เปิดให้ผู้ใช้งานรับ Airdrop โทเคน FDM เพียงแค่วาง Staking โทเคน BTZ ทั้งในฟีเจอร์ Earn ในแอปพลิเคชั่น Bitazza หรือการวาง Staking ในบัญชีบัตร Freedom Card
ผู้ที่วาง Staking เพื่อรับ Airdrop รอบนี้มีโอกาสรับ FDM สูงสุดถึง 50% จากจำนวน BTZ ที่มีทั้งหมดโดยช่วงเวลาการแจก Airdrop จะมีถึงวันที่ 28 ตุลาคมนี้เท่านั้น
ใครยังไม่มีบัญชี Bitazza สมัครได้ทางนี้เลยครับ
ปล.บทความ รีวิว Freedom Mall นี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุนและผู้เขียนไม่ได้ผลตอบแทนการโฆษณาจากทาง Bitazza แต่อย่างไร