รีวิว Bybit 2023 อัพเดตล่าสุดกับฟีเจอร์ที่เปิดตัวไปในปี 2022 ที่ผ่านมาเพื่อเป็นทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายให้กับนักเทรด โดยบางฟีเจอร์ Bybit เป็นผู้นำในตลาดและบางฟีเจอร์เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวในอุตสาหกรรม
มาร์เกตแชร์เติบโตต่อเนื่อง
ปี 2022 ที่ผ่านถือเป็นปีที่ส่วนแบ่งตลาดของ Bybit เติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญโดยหากไม่นับผู้นำตลาดอย่าง Binance มีเพียงแค่ Bybit ที่มีมาร์เกตแชร์เติบโตขึ้นทุกไตรมาส โดยไตรมาสแรกของปี 2022 ยังมีมาร์เกตแชร์เพียง 1.1% แต่พอถึงไตรมาสสี่สามารถสร้างมาร์เกตแชร์ขึ้นมาได้ที่ระดับ 3.5% ขณะที่ Exchange อื่นมีส่วนแบ่งตลาดลดลง

นอกจากนี้ในเดือนสิงหาคมวอลลุ่มเทรดเติบโตกว่า 248% จากเดือนก่อนหน้าจากการที่มีแคมเปญค่าธรรมเนียมเทรด 0% ภาพรวมแล้ว Bybit มีการเติบโตที่สวนทางอุตสาหกรรมคริปโตที่ค่อนข้างซบเซา
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : รีวิว FREEDOM CARD รับ CASH BACK เป็นเหรียญ BTZ ทุกการใช้จ่าย
เปิดตัว Bybit Web3 Wallet
เพื่อให้นักเทรดสามารถเข้าถึงโลกของ Web3 ได้อย่างสะดวก Bybit จึงได้เปิดตัว Bybit Web3 Wallet ซึ่งเป็น Custodial Wallet แบบ Multi Chain ที่ทำให้ผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่น Bybit สามารถใช้งาน dApps ต่างๆเช่น NFT หรือ DeFi ได้สะดวกขึ้นอีกทั้งยังมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการใช้งาน

โดยตอนนี้มีความร่วมมือกับ APEx Pro ซึ่งเป็น DEX สาย Derivatives ให้ลูกค้าของ Bybit สามารถเชื่อมต่อ Wallet ได้ผ่านทางแอปพลิเคชั่นของ Bybit และเข้าไปเทรดในแพลตฟอร์มของ APEx Pro ได้เลย อนาคตจะยังมีความร่วมมือกับ dApps อื่นๆตามมาอีก
การทำงานร่วมกับ MT4
Bybit ถือเป็น Exchange รายแรกที่เปิดให้นักเทรดสามารถซื้อขายคริปโตผ่านแพลตฟอร์ม Metatrader4 หรือ MT4 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายตราสารทางการเงินที่ได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2005 โดยบริษัท MetaQuotes ซึ่งผู้ที่เทรดตราสาร CFD หรือ Forex น่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี
จุดแข็งของ MT4 คือการใช้งานที่ง่ายโดยเฉพาะผู้ที่พัฒนาระบบเทรดอัตโนมัติหรือ Expert Advisor ซึ่งมีเครื่องมือที่เอื้อต่อการพัฒนาระบบการเทรด นอกจากนี้ยังเป็นผลดีต่อนักเทรดที่ใช้งาน MT4 อยู่แล้วไม่จำเป็นต้องสลับกลับมาใช้งาน Bybit ในการเทรดคริปโตให้เสียเวลาอีก

โดยผู้ที่เทรดคริปโตด้วย MT4 ผ่านบัญชีของ Bybit มีข้อได้เปรียบเหนือโบรกเกอร์อื่นตรงที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมงเหมือนกับ Exchange และส่วนต่างราคาหรือ Slippages อยู่ในระดับที่ดี ตลอดจนมีความโปร่งใสสูงเนื่องจากคำสั่งซื้อขายจะส่งตรงไปยัง Order Book ของ Bybit โดยตรงโดยไม่ผ่านโบรกเกอร์ซึ่งสามารถที่จะบิดเบือนราคาได้
เปิดตัว Copy Trade
ฟีเจอร์สำคัญที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมาก็คือ Copy Trade โดยสามารถเลือกเทรดเดอร์ที่มีผลงานดีที่เรียกว่า Principal Trade จากนั้นก็เลือกกด Copy เพียงเท่านั้นระบบจะทำการซื้อขายให้อัตโนมัติตามที่ Principal Trade รายนั้นส่งคำสั่ง โดยผู้ที่ติดตามจะเสียส่วนแบ่งกำไร 10% ให้กับผู้นำเป็นค่าธรรมเนียมในการติดตาม
โดยผู้ตามสามารถตั้งค่าการติดตามได้ตามระดับความเสี่ยงที่รับได้เช่นมีการตัดขาดทุนเมื่อพอร์ตติดลบตามตัวเลขที่กำหนดไว้หรือขายทำกำไรทันทีเมื่อกำไรถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ จึงเป็นฟีเจอร์ที่เหมาะสมกับเทรดเดอร์ที่ไม่มีเวลาติดตามตลาดมากนัก
ฟีเจอร์ Trading Bot ทั้งตลาด Spot และ Futures
สำหรับนักเทรดที่ไม่มั่นใจใจในการเทรดของตัวเองหรือไม่มีเวลาที่จะเฝ้าตลาดมากนัก Bybit จึงได้พัฒนาฟีเจอร์ Trading Bot ที่จะส่งคำสั่งซื้อขายให้อัตโนมัติตามการตั้งค่าที่เราได้กำหนดขึ้น โดยมีครบทั้งตลาด Spot และ Futures

สำหรับกลยุทธ์ DCA จะเป็นการทะยอยเข้าซื้อเพื่อสะสมในระยะยาว แต่สำหรับนักเทรดระยะสั้นสามารถใช้กลยุทธ์ Grid Bots ซึ่งเป็น Trading Strategy ที่มีหลักการคือหากราคาวิ่งขึ้นลงอยู่ในกรอบที่เรากำหนดไว้ เราจะสามารถทำกำไรได้จากส่วนต่างราคาระหว่าง Grid ซึ่งทางระบบจะทำการส่งคำสั่งซื้อขายให้อัตโนมัติ โดยสามารถเลือกที่จะ Copy Trade กลยุทธ์ที่เราต้องการจะใช้ตามได้อีกด้วยโดยอาศัยการตั้งค่าไม่กี่พารามิเตอร์เท่านั้น
ผลิตภัณฑ์ USDC Options
นอกจากความโดดเด่นในผลิตภัณฑ์ประเภท Futures แล้ว Bybit ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เป็นตราสารอนุพันธ์อีกรูปแบบนั่นคือ Options ซึ่งใช้เหรียญ USDC เป็นหลักประกันและชำระราคาเป็นเจ้าแรก โดยมีสัญญา Options ของ BTC ,ETH และ SOL ให้เลือกเทรด

โดย Options ของ Bybit จะเป็นรูปแบบ European Style หรือจะสามารถใช้สิทธิได้ต่อเมื่อหมดอายุสัญญาตามที่กำหนดเท่านั้นโดยมีตั้งแต่รายวัน รายสองวัน รายสัปดาห์ รายสองสัปดาห์ ไตรสัปดาห์ รายเดือน รายสองเดือน และรายไตรมาส ถือเป็นทางเลือกหนึ่งของนักเทรดในการบริหารจัดการความเสี่ยงด้วย Options
เปิดตัว Proof-of-reserve (PoR)
เพื่อให้ผู้ใช้งานมีความเชื่อมั่น Bybit จึงได้เปิดตัว Proof-Of-Reserve เพื่อเปิดให้คนทั่วไปสามารถเข้าไปดูส่วนของทุนของแพลตฟอร์มได้ผ่านทางกระเป๋าเงินสำรองโดยปลายปี 2022 ที่ผ่านมาสินทรัพย์ของ Bybit มีมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ โดยอยู่ใน Bitcoin , Tether , Ether และ USDC สามารถเข้าไปดู POR ได้ที่ลิงค์นี้
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดตัว Bybit Cardซึ่งเป็นบัตรเดบิตที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถชำระค่าสินค้าและบริการด้วย stablecoins เช่น USDC โดย Bybit จะร่วมมือกับผู้ให้บริการบัตรเดบิตรายใหญ่เพื่อให้สามารถเข้าถึงการชำระเงินด้วยคริปโตทั่วโลก
รีวิว Bybit 2023 ยังคงแผนที่จะเป็นศูนย์กลางของโลกคริปโตหรือ Crypto Ark โดยในปีนี้คาดว่า Bybit จะมีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆเพื่อตอบโจทย์นักเทรดทุกระดับอีกเช่นเคย
สมัครเปิดพอร์ตเทรดกับ Bybit ได้ที่นี้เลย