รีวิว Binance หนึ่งใน Exchange ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลรายใหญ่ที่สุดของโลกและเป็นที่รู้จักของนักเทรดคริปโตแทบทุกคน ไปดูกันว่าเราจะเปิดใช้งานและมีโปรดักต์อะไรบ้างให้เราได้สามารถลงทุน รวมถึงวิธีการโอนเงินตลอดจนลูกเล่นต่างๆที่มีในแพลตฟอร์ม
ทำความรู้จัก Binance หนึ่งใน Exchange ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ในบรรดาเวบเทรดคริปโตหรือ Exchange ต้องบอกว่า Binance คือหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ โดยทุกๆวันจะมีวอลลุ่มเทรดใน Binance คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ จากทั่วโลกและยังติดอยู่ในอันดับต้นๆของ Exchange ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้ไม่มีปัญหาในเรื่องของสภาพคล่องซื้อขายอย่างแน่นอน
ผู้ก่อตั้ง Binance และยังเป็น CEO มีชื่อว่า Zhao Changpeng หรือ CZ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลอันดับที่หนึ่งในวงการคริปโตของโลกและยังติดอยู่ในลิสต์มหาเศรษฐีของนิตยสาร Forbes อีกด้วย โดยสามารถติดตามเขาได้ทางทวิตเตอร์ส่วนตัวซึ่ง CZ จะทวีตบ่อยมากโดยจะเป็นการอัพเดตข่าวสารเกี่ยวกับบริการใหม่ๆ

Binance มีการขยายกิจการไปทั่วโลก นอกจากในเอเชียแล้วยังมีในทวีปอเมริกา ยุโรป แม้แต่แอฟริกา โดยมีการเปิดรับสกุลเงิน Fiat Currency ท้องถิ่นกว่าร้อยสกุล บางประเทศ Binance ได้มีการลงทุนขยายสาขาโดยตรงอย่างเช่นที่ประเทศสิงคโปร์
วิธีการสมัคร
การสมัครใช้งาน Binance นั้นทำได้ง่ายมาก โดยใช้เพียงแค่บัตรประชาชนในการทำ KYC เท่านั้น โดยการสมัครทำได้โดยไปที่เวบไซต์หรือแอปพลิเคชั่นซึ่งมีทั้งระบบ ios และ android จากนั้นไปที่ Register กรอกข้อมูลส่วนตัวโดยใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือหรืออีเมลก็ได้ จากนั้นก็รอ Email Confirm ก็ถือว่าเสร็จไปแล้วหนึ่งขั้นตอน
ขั้นตอนต่อไปคือการทำ KYC โดยเพียงแค่ถ่ายภาพบัตรประชาชนรวมถึงถ่าย Selfie หน้าตัวเองสองขั้นตอนเท่านั้น หากถ่ายออกมาได้คมชัดมองเห็นง่ายการอนุมัติก็จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทำได้สะดวกเพียงแค่ใช้มือถือเครื่องเดียวเท่านั้นและใช้เวลาเพียงแค่ไม่เกิน 30 นาทีเท่านั้น
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : สินทรัพย์ดิจิทัล 101 ทำความเข้าใจก่อนลงทุนสินทรัพย์แห่งอนาคต
วิธีการโอนเงินเข้าบัญชี
วิธีการโอนเงินเข้าไปเทรดใน Binance ทำได้หลายวิธี โดยเลือกไปที่ Buy Crypto จากนั้นเมนูจะให้เลือกสกุลเงิน Fiat Currency ที่จะใช้ในการโอนเข้ามาเป็นเงินทุนก้อนแรก สำหรับคนไทยสามารถโอนเงินบาทเข้ามาได้โดยจะต้องเป็นสมาชิกของ Satang Pro ซึ่งเป็น Excahnge ไทยที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ซึ่งพอกดเข้าไปหน้าเพจจะเปลี่ยนไปยังหน้าเมนูของ Satang Pro ชั่วคราวเพื่อทำธุรกรรม
หรือจะเลือกการแลกเปลี่ยนเงิน Fiat Currency ด้วยวิธีการ P2P Trading ซึ่งจะมีสมาชิกท่านอื่นคอยรับซื้อรับขายตามเรทราคาซึ่งจะแสดงอยู่บนเวบไซต์ เมื่อเราเลือกคู่ที่จะซื้อขายได้แล้วก็สามารถแลกเปลี่ยนกันสกุลเงินดิจิทัลกันได้เลย

สำหรับผู้ที่มีบัตรเครดิต Visa,Mastercard ก็สามารถที่จะทำการตัดเงินในระบบเพื่อแปลงเป็นสกุลเงินดิจิทัลก็ได้เช่นกัน
อีกวิธีหนึ่งก็คือการ Transfer สกุลเงินดิจิทัลจาก Exchange ไทยอื่นๆอย่างเช่น Bitazza,Bitkub เข้ามาใน Wallet ของเราได้เช่นกัน เรื่องของเวลาที่ใช้ในการโอนและค่าธรรมเนียมก็ขึ้นอยู่กับปริมาณการทำธุรกรรมของแต่ละเหรียญว่ามากน้อยเพียงใด
ลูกเล่นต่างๆให้เลือกเทรดมากมาย
ภายในแพลตฟอร์มของ Binance นอกจากสกุลเงินดิจิทัลหลักๆอย่าง Bitcoin,Ethereum และ Ripple แล้วยังมีเหรียญอื่นๆให้เทรดนับร้อยเหรียญ เรียกได้ว่าต้องการจะหาเหรียญสกุลเงินดิจิทัลใหม่ๆที่กำลังสร้างผลตอบแทนได้ดีหรือไม่มีให้ซื้อขายใน Exchange ของไทยได้แน่นอน อย่างไรก็ตามทาง Binance จะคัดเลือกเฉพาะเหรียญที่น่าเชื่อถือเข้ามาให้ซื้อขายเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีการลงทุนรูปแบบอื่นๆ เช่น การนำเหรียญมาวางเพื่อทำ Staking ซึ่งมีเหรียญให้เลือกนำมาวางเพื่อรับผลตอบแทนนับสิบเหรียญ โดยสามารถเลือกผลตอบแทนต่อปี (APY) ได้ตามที่ต้องการ ล่าสุดยังเปิดให้นำ ETH มา Staking เพื่อรอรับ ETH2.0 ได้แล้ว

หรือจะเลือกนำ Stablecoin อย่างเช่น BUSD,USDC,USDT,DAI มาวางเพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่อง (Liquid Swap) ก็ได้เช่นกัน หรือจะเลือกนำเหรียญที่มีอยู่มาทำการฝากเงิน (Saving) ซึ่งอาจได้ผลตอบแทนที่น้อยกว่าการทำ Staking หรือ Liquid Swap แต่ก็มีความเสี่ยงน้อยกว่า หรือจะนำเงินดิจิทัลที่มีมาวางค้ำประกันเพื่อขอกู้ (Crypto Loan) ได้เช่นกัน รวมถึงการทำ Pool Mining
เรียกได้ว่ามีทั้งการลงทุนที่เป็นทั้ง Active และ Passive Income ให้เลือกลงทุนใน Binance อย่างครบครันทีเดียว
สินค้าประเภทอนุพันธ์ให้เลือกเทรดหลากหลาย
นอกจากตลาด Spot ภายในแพลตฟอร์ม Binance ยังมีตราสารอนุพันธ์ (Derivatives) ให้เลือกเทรด ไม่ว่าจะเป็น Futures และ Options ตลอดจนการเทรดแบบใช้มาร์จิน นอกจากนี้ยังมีสภาพคล่องในระดับที่สูงตลอดจนวอลลุ่มการเทรดอยู่ในอันดับที่หนึ่งของโลก
สำหรับผู้ที่เริ่มต้นเทรดอนุพันธ์อาจจะเริ่มจากการใช้ Margin Trade ก่อนโดยจะมีอัตราทดที่ 3X ซึ่งไม่สูงมากนักอีกทั้งยังไม่มีความเสี่ยงในเรื่องของการบังคับขายหรือ Liquidate

หากมีความชำนาญแล้วก็สามารถเลือกเทรดตราสารประเภท Futures ได้โดยมีอัตราทดเริ่มต้นที่สามารถเลือกได้ตั้งแต่ 2X ไปจนถึงสูงสุด 125X โดยสามารถเลือกได้ทั้งการซื้อล่วงหน้า (Long) หรือขายล่วงหน้า (Short) โดยรูปแบบสัญญามีตั้งแต่ไม่มีวันหมดอายุ (Perpetual) และสัญญาหมดอายุรายไตรมาส นอกจากนี้ยังมี Options ให้สามารถเทรดได้ แต่ตอนนี้ยังมีเพียงแค่อายุสัญญาหมดวันต่อวัน
ทั้งนี้การเทรดตราสารอนุพันธ์ถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงและมีโอกาสที่จะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด ผู้สนใจต้องศึกษาความเสี่ยงของโปรดักต์ปประเภทนี้เป็นอย่างดี
บทความที่เกี่ยวข้อง : รีวิว Bitazza โบรกเกอร์สินทรัพย์ดิจิทัลน้องใหม่ที่ไม่ธรรมดา!!
ได้รับ Native Token อย่าง BNB ทุกครั้งที่เทรด
สิ่งพิเศษที่ผู้ใช้งาน Binance จะได้รับทุกครั้งที่เกิดการซื้อขายก็คือทุกครั้งที่มีการซื้อขายภายใน Binance จะได้รับ Native Token อย่าง BNB ซึ่งผู้ถือจะได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเช่นใช้เป็นส่วนลดค่าธรรมเนียมการเทรด รวมไปถึงหากสามารถนำไปขายในกระดานได้อีกด้วย โดยในแพลตฟอร์มจะมีฟีเจอร์ที่ช่วยแปลงเศษเหรียญที่เกิดจากค่าธรรมเนียมการเทรดแต่ละครั้งให้เป็นเหรียญ BNB เพื่อเก็บสะสมไว้ได้อีกด้วย
แต่สิทธิสุดพิเศษก็คือการนำเหรียญ BNB ใช้รับสิทธิลงทุน IEO ในโปรเจกต์ของ Binance Launchpool ก่อนใคร ซึ่งหลายโปรเจกต์เช่น Band Protocol ของคนไทยก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้หลายร้อยเปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ Binance ยังมีกลไกในการเพิ่มมูลค่าให้กับเหรียญ BNB ด้วยการนำกำไรมาเผาเหรียญทิ้งทุกไตรมาสเพื่อลดซัพพลายของเหรียญลง เพื่อให้คนที่มี BNB อยู่กับตัวมีคุณค่ามากขึ้น ทำให้มูลค่าของเหรียญ BNB จากวันที่เสนอขาย ICO ที่ราคาต่ำกว่า 1USD แต่ปัจจุบันขึ้นมาซื้อขายในระดับ 30USD ไปแล้ว

บทสรุป
แม้จะมีฟีเจอร์ต่างๆมากมาย แแต่ในแง่ของ UX/UI ทั้งในเวอร์ชั่นเวบไซต์และโมบายแอปถือว่าทำได้ User Friendly เป็นอย่างมาก แม้เป็นเทรดเดอร์มือใหม่ก็น่าจะเริ่มต้นใช้งานได้ไม่ยากมากนัก สินค้าที่มีให้เลือกลงทุนมากมายตั้งแต่การเทรดไปจนถึงการ Staking
ในส่วนของสภาพคล่องไม่มีปัญหาเพราะเป็นเวบเทรดระดับโลกไม่ต้องกังวลเรื่อง Spread ราคาและวอลลุ่ม สินค้ามีให้เลือกอย่างหลากหลาย สรุปคือ Binance น่าจะเป็นทางเลือกแรกของการใช้เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล
สำหรับผู้ที่กังวลว่าไม่ใช่เวบไทยจะมีปัญหาการใช้งานหรือไม่ ตอนนี้ Binance ได้เพิ่มภาษาไทยลงไปในเวบไซต์แล้ว ตลอดจนมีทีมงานคนไทยคอยดูแล Community อย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่าเมื่อมีคำถามก็สามารถสอบถามทีมงานได้
บทความ รีวิว Binance เวบเทรดคริปโตอันดับหนึ่งของโลกนี้น่าจะเป็นแนวทางตัดสินใจให้กับผู้ที่คิดจะเริ่มต้นลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างจริงจัง สำหรับผู้ที่ต้องการเปิดบัญชีกับ Binance สามารถสมัครผ่านลิงค์นี้ได้ หรือจะเข้ากลุ่ม Line Official พูดคุยเรื่องการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลได้ที่นี้
บทความที่เกี่ยวข้อง : รีวิว BYBIT เวบเทรดคริปโตแบบ FUTURES ที่กำลังมาแรง