ราคา Ethereum ในปีนี้ปรับตัวขึ้นในระดับที่สูงกว่า Bitcoin ในปีนี้โดยผลตอบแทนแบบ YTD อยู่ที่ 226% ส่วน Bitcoin ปรับตัวขึ้นเพียง 33% ประกอบกับความนิยมใน DeFi และ NFT ที่เติบโตขึ้น จนเริ่มเกิดความคาดหวังว่าจะได้เห็นมาร์เกตแคปของ Ethereum พุ่งแซง Bitcoin?
บทวิเคราะห์ล่าสุดของ JPMorgan หัวข้อ Crypto : A New Asset Class? ได้มีการวิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตของ Ethereum ในการเป็นหนึ่งในสินทรัพย์การลงทุนใหม่ในอนาคต ไว้อย่างน่าสนใจ
บทความอื่นที่น่าสนใจ : 5 สถิติสำคัญที่บ่งบอกว่าบิทคอยน์ยังเป็นขาขึ้น
บทวิเคราะห์ดังกล่าวเขียนโดย Nick Panigirtzoglou ให้เหตุผลสนับสนุนการเติบโตของ Ethereum ไว้ดังนี้
1.สถาบันการเงินหลักมีโอกาสใช้บล็อกเชนของ Ethereum มากขึ้นในอนาคต ตัวอย่างเช่น European Investment Bank (EIB) ใช้บล็อกเชนของ Ethereum ในการออกธนบัตรดิจิทัลอายุ 2 ปี โดยไม่ต้องใช้เอกสารเพื่อให้นักลงทุนสามารถซื้อและชำระเงินบนพันธบัตรได้บนบล็อกเชน
บทความที่เกี่ยวข้อง : รีวิว BYBIT เวบเทรดคริปโตแบบ FUTURES ที่กำลังมาแรง
2.เริ่มมีการจัดตั้งกองทุน ETF สำหรับ Ethereum ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายนโดย Purpose Investments ในแคนาดาและอีกสาม ETF ที่เปิดตัวตามมาในเดือนเดียวกัน จะช่วยดึงดูดนักลงทุนสถาบันให้เข้ามาลงทุนระยะยาว

3.การอัพเกรดเวอร์ชั่นครั้งใหม่ของ Ethereum ในชื่อ EIP1559 จะช่วยให้ค่าธรรมเนียมการใช้งานบล็อกเชนของ Ethereum หรือค่า GAS ลดลง ซึ่งเป็นการปิดจุดอ่อนที่มีอยู่ในตอนนี้และยังมีการเผาเหรียญทิ้งจากเดิมที่ไม่เคยมีมาก่อนซึ่งจะลดซัพพลายใหม่ของ Ethereum ลงเหลือ 1-2% ต่อปี
4.กลุ่มนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับ ESG หรือประเด็นทางด้านสิ่งแวดล้อมจะเปลี่ยนจากการลงทุนใน Bitcoin ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้าระดับสูงมาเป็น Ethereum ซึ่งมีต้นทุนด้านพลังงานต่ำกว่าเนื่องจากกำลังจะเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบ Proof Of Stake ในเร็วๆนี้
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : รีวิว BINANCE เวบเทรดคริปโตอันดับหนึ่งของโลก
5.การเติบโตอย่างรวดเร็วของ NFT ,DeFi และ Stablecoins ช่วยเพิ่มการใช้งาน Ethereum ให้มีความต้องการมากขึ้น
6.การเปลี่ยนแปลงทางด้านนโยบายการเงินของ FED อาจกดดันราคา Bitcoin เช่นเดียวกับทองคำ เนื่องจาก Bitcoin มีสถานะเหมือนเป็นทองคำดิจิทัล ขณะที่ Ethereum อยู่ในสถานะของสินทรัพย์ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็น DeFi,NFT และ Stablecoins ซึ่งมีความอ่อนไหวน้อยกว่า Bitcoin
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : วิเคราะห์อนาคต BNB กับการเป็นโทเคนอันดับหนึ่งของโลกคริปโต
ขณะที่บทวิเคราะห์โดย Bloomberg Intelligence ระบุว่า Ethereum มีโอกาสที่จะมีมาร์เกตแคปแซงหน้า Bitcoin โดยให้เหตุผลสนับสนุนจำนวนนักพัฒนาที่มากกว่า Bitcoin ปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 2 เท่า มีมูลค่าใกล้เคียงกับการซื้อขาย Bitcoin ที่ระดับ 80% ตั้งแต่ต้นปี 2021
Ethereum ยังได้รับการยอมรับให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานของสกุลเงินดิจิทัลกว่า 10,000 เหรียญ แม้อาจจะดูว่าจำนวนเหรียญที่มีมากเหมือนฟองสบู่แต่ Ethereum ก็ถือว่าได้รับการยอมรับให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการสร้างเหรียญนั้นๆ

Bloomberg Intelligence ยังได้บอกว่าปัจจุบันมูลค่าตลาดหรือมาร์เกตแคปของ Ethereum อยู่ที่ระดับ 50% หรือครึ่งหนึ่งของ Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่งและมีสัดส่วนต่อตลาดรวมเพิ่มขึ้นจาก 10% มาอยู่ที่ 20% ซึ่งหากยังรักษาอัตราการเติบโตในระดับนี้ได้ต่อเนื่องจะมีโอกาสได้เห็นมูลค่าตลาดของ Ethereum แซงหน้า Bitcoin ได้ในวันหนึ่ง
บทความที่เกี่ยวข้อง : BITCOIN ในกำมือของ ELON MUSK เราจะเอาตัวรอดได้อย่างไร??
โดยสรุปคือ Ethereum เป็นตัวแทนของนวัตรกรรมทางการเงินยุคใหม่ที่มีโอกาสใหม่ๆในการเติบโตมากกว่า Bitcoin ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่เก่ากว่าแต่มีความมั่นคงมากกว่า อย่างไรก็ตามหากนักลงทุนสถาบันเริ่มหันมาสนใจใน Ethereum แบบเดียวกับที่ให้ความสนใจใน Bitcoin ก็มีโอกาสไม่น้อยที่ ราคา Ethereum จะไปได้ไกลกว่าที่เราเห็นในตอนนี้
** คอร์สออนไลน์ “มือใหม่เริ่มลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล” นอกจากเรียนทฤษฎีทางออนไลน์แล้วยังได้เรียนสดทาง Zoom กับผู้สอนทุกสัปดาห์อีกด้วย รายละเอียดคลิ๊กที่นี้